รถมือสองควรทำประกันภัยรถยนต์แบบไหนดี?

รถมือสองควรทำประกันภัยรถยนต์แบบไหนดี?

     หากคุณเพิ่งตกลงซื้อรถมือสองมาใช้งาน สิ่งถัดไปที่ควรปฎิบัติหลังจากนำรถเข้าศูนย์คือ "ทำประกันภัยรถยนต์" หลายคนอาจมองว่าการทำประกันรถยนต์เป็นค่าใช้จ่ายที่สิ้นเปลือง ต้องทำประกันใหม่หรือต่อประกันใหม่ทุกๆ ปี ยิ่งทำประกันชั้นหนึ่งแล้วก็ถือว่าเป็นงบประมาณสูงเอาการเลยทีเดียว แต่แนะนำว่าทำประกันไว้เถอะเพราะเราไม่สามารถคาดการอุบัติเหตุล่วงหน้าได้เลย วันดีคืนดีเกิดดวงตก รถเกิดอุบัติเหตุและรถไม่มีประกันแล้วละก็ ค่าซ่อมและค่ารับผิดชอบต่อความเสียหายอื่นๆ อาจมีค่ามากกว่าซื้อประกันเสียอีก

หลักการเลือกซื้อประกันสำหรับรถมือสองสามารถสังเกตได้ง่ายๆ จากรถคันที่ซื้อมา ซึ่งมีดังนี้
 1. สภาพรถ 
     รถสภาพใหม่ ใสกิ๊งราวกับมือหนึ่งเพิ่งจะถอยมา เลขไมล์ต่ำ กรณีนี้แนะนำว่าทำประกันชั้น 1 เลยหากมีทุนทรัพย์มากพอ เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรักษาสภาพรถไว้ เพราะประกันชั้นหนึ่งจะมีการคุ้มครองครอบคลุมรวมถึงชดเชยทั้งแบบมีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี
     ถ้าหากคุณซื้อมาเพื่อเป็นรถคันสำรอง หรือให้คนที่บ้านใช้งานแต่ใช้งานไม่บ่อย อาจลองพิจารณาเลือกประกันภัยชั้น 2 หรือชั้น 3 ก็ได้ เพื่อประหยัดเงินที่เสียไปในแต่ละปี แต่ก็ต้องยอมรับความคุ้มครองที่ต่ำลงตามเงื่อนไขกรมธรรม์นั้นๆ

 2. พฤติกรรมการใช้รถ 
    พฤติกรรมการขับรถอาจเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล บางคนมีความมั่นใจในตัวเอง ขับรถเร็ว เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และเมื่อขับรถด้วยความเร็จอุบัติเหตุที่เกิดอาจเป็นอุบัติเหตุที่ร้ายแรงก็ได้ ดังนั้นการเลือกทำประกันก็ควรคลอบคลุมความเสี่ยงสูง อาจจะทำประกันชั้น 1 เลยก็ได้
    บางคนอาจขับรถไม่ค่อยมีความระมัดระวัง เกิดอุติเหตุบ่อยครั้ง ก็อาจจำเป็นต้องเลือกประกันที่คลอบคลุมความเสียหายสูงเช่นกัน อาจพิจารณาทำประกันชั้น 1 หรือ 2+

 3. งบประมาณสำหรับการทำประกันรถยนต์ 
     ด้วยสภาพเศรษฐกิจ การเพิ่มค่าใช้จ่ายในปริมาณที่สูงก็อาจจะต้องคิดหน้าคิดหลังกันหลายรอบ แต่ประกันรถยนต์ก็ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็น ถึงงบไม่มากพอที่จะซื้อประกันชั้น 1 อีกทางเลือกที่น่าสนใจก็ย่อมเป็นประกันชั้น 2+ หรือชั้น 2 ด้วยค่าใช้จ่ายถูกกว่าประกันชั้น 1 กว่าครึ่งนึง แต่ก็ยังได้รับความคุ้มครองระดับนึงเลย

ประกันที่เหมาะกับรถมือสอง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
     หากรถยนต์มีอายุไม่เยอะ หรือยังมีสภาพใหม่ ประกันชั้น 1 ยังได้รับความนิยมมาเป็นลำดับต้นๆ เนื่องจากมีการคุ้มครองได้อย่างครอบคลุม นอกจากช่วยคุ้มครองตัวผู้เอาประกันแล้ว ยังให้การคุ้มครองผู้โดยสาร รวมถึงรถคู่กรณีอีกด้วย
 
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
     ถ้าหากการทำประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 อาจมีราคาที่สูงจนเกินไป การทำประกันชั้น 2 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ตอบโจทย์ พร้อมให้การคุ้มครองที่ครอบคลุมเหมือนประกันชั้น 1 ต่างกันตรงที่ไม่รับเคลมหากมีคู่กรณี
 
ประกันรถยนต์ชั้น 3
     ในกรณีที่รถมือสองมีสภาพค่อนข้างเก่า แนะนำให้เลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 3 โดยจะให้การคุ้มครองในเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น

     ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกทำประกันรถยนต์ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เอาประกัน และความเหมาะสม เพราฉะนั้นควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวประกันแต่ลประเภทให้ดีเสียก่อน


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม